ปราชญ์สัมมาชีพ (กล้วยฉาบ)

  ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน

     นางสาวพาณิชย์  แก้วสุวรรณ์

    บ้านขัวสูง ม.5 ตำบลกกตูม

  อำเภอดงหลวง  จังหวัดมุกดาหาร

1. ข้อมูลทั่วไป

ชื่อ  : นางสาวพาณิชย์   นามสกุล    แก้วสุวรรณ์    อายุ  35  ปี

จบการศึกษาขั้นสูงสุด : ม.6   

ที่อยู่ปัจจุบัน  : บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 5 ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร  

หมายเลขโทรศัพท์ : 0910159083   

อาชีพ : เกษตรกร   

จำนวนสมาชิกในครัวเรือน   6  คน

2. กลุ่ม/องค์กรที่เป็นสมาชิก

   สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน บ้านขัวสูง ม.5

   สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ม.5

   สมาชิกกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตบ้านขัวสูง ม.5

   สมาชิก อสม.

3. การดำรงตำแหน่งต่างๆ ดังนี้

   คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้านขัวสูง

   คณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

   คณะกรรมการ อสม.

4.การดำเนินงานของครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน

จากการจัดเวทีประชาคมวิเคราะห์ข้อมูลและปรับแผนชุมชน  เพื่อวิเคราะห์ปัญหาของหมู่บ้านพบว่า    มีรายจ่ายสูงมากกว่ารายได้  โดยรายจ่ายส่วนใหญ่เกิดจากต้นทุนการประกอบอาชีพ  มีเงินออมต่ำ ภาวะหนี้สินสูง ขาดอาชีพเสริมและประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ทำสวน และกู้ยืมเงินมาเพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ  ได้แก่ การปลูกอ้อย ปลูกมันสำปะหลัง สวนยางพารา และปลูกกล้วยน้ำว้า ซึ่งประชาชนในหมู่บ้านได้ลงมติว่าเห็นควรหาอาชีพที่ทำง่ายๆ และใช้วัตถุดิบที่มีในชุมชน เพื่อให้สามารถทำได้กับทุกเพศทุกวัย  ซึ่งทุกคนได้มีความเห็นพ้องกันว่าในหมู่บ้านชาวบ้านปลุกกล้วยน้ำว้าและให้ผลผลิตตลอดทั้งปี จึงสนใจที่จะแปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยฉาบเพื่อเพิ่มมูลค่า การสนับสนุนส่งเสริมการทำกล้วยฉาบ จึงเป็นอาชีพเสริมและสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้  และมีจำนวนครัวเรือนที่สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวน   30 ครัวเรือน และมีการจัดตั้งกลุ่มอาชีพขึ้น คือ กลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้านขัวสูง ม.5 ซึ่งอาชีพที่ครัวเรือนได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรสัมมาชีพชุมชน คือ การทำกล้วยฉาบ

วิทยากรสัมมาชีพชุมชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านอาชีพให้กับครัวเรือน

บ้านขัวสูง  หมู่ที่ 5  ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ดังนี้

สถานที่ดำเนินการฝึกอาชีพ

ศูนย์เรียนรู้การสร้างสัมมาชีพชุมชน  

หมู่ที่ 5  ตำบลกกตูม  อำเภอดงหลวง  จังหวัดมุกดาหาร   

รูปแบบการฝึกอาชีพของครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน : รวมกลุ่มฝึกปฏิบัติอาชีพ 

วัสดุสนับสนุนฝึกอาชีพที่ได้รับ :

1. กล้วยน้ำว้าดิบ                          10. ผักชีไทย
2. น้ำมันพืช                                11. เครื่องซีล
3. เนย                                                12. ถุงจีบ
4. น้ำตาลทราย                           13. ถ้วยตวง
5. เกลือ                                     14. กะละมัง
6. กระเทียม                               15.ตะแกรง
7. พริกไทย                                 16. มีด
8. ใบเตย                                   17. ตะหลิว
9. กระทะ                                 

ผลการฝึกอาชีพของครัวเรือน

   มีความรู้ ความเข้าใจ ในการฝึกปฏิบัติทำกล้วยฉาบ  ซึ่งสามารถนำไปเป็นอาชีพได้จริง

ต้นทุนในการผลิต (270 บาท ต่อ 1 รอบ ขายได้ 500 บาท)

-          กล้วยน้ำว้า                                                          100  บาท

-          น้ำมันพืช                                                            120 บาท

-          เครื่องปรุงรส                                                         50 บาท

-          ผลผลิตที่ได้ จำนวน 5 ถุงๆละ 10 บาท                        500 บาท     

-          ได้กำไร                                                                 230 บาท

ครัวเรือนสัมมาชีพชุมชน   เป็นสมาชิกลุ่มอาชีพกลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรบ้านขัวสูง

ม.5   ตำบลกกตูม  อำเภอดงหลวง  จังหวัดมุกดาหาร

จัดตั้งเมื่อ  27 ธ.ค. 2558   มีสมาชิกจำนวน    30   คน 

ประธานกลุ่มชื่อ นางรพีพรรณ  หลาบโพธิ์

ภาคีการพัฒนา/หน่วยงาน/องค์กร ที่ให้การสนับสนุนพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติม

สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอดงหลวง  สิ่งที่สนับสนุน วิทยากรในการทำกล้วยฉาบหลากรสชาติ

สถานที่จำหน่าย

          ร้านค้าในชุมชน 

          ตลาดนัดในชุมชน

รายได้-รายจ่าย จากการประกอบสัมมาชีพชุมชน

รายได้-รายจ่าย ของครัวเรือนสัมมาชีพ จากการนำความรู้ที่ได้จากการฝึกอาชีพไปประกอบเป็นอาชีพ ในปี 2560          

ขั้นตอนวิธีการทำกล้วยฉาบ

วัสดุอุปกรณ์

1. กล้วยน้ำว้าดิบ                          10. ผักชีไทย
2. น้ำมันพืช                                11. เครื่องซีล
3. เนย                                                12. ถุงจีบ
4. น้ำตาลทราย                           13. ถ้วยตวง
5. เกลือ                                     14. กะละมัง
6. กระเทียม                               15.ตะแกรงลวด
7. พริกไทย                                 16. มีด/มีดคู่
8. ใบเตย                                   17. ตะหลิว
9. กระทะ                                  18. ชุดเตาแก้ส

ขั้นตอนการทำกล้วยฉาบ (วิธีทำ)

                1. ปอกเปลือกกล้วยน้ำหว้าดิบ ด้วยมีดปอกเปลือก (มีดคู่)
          2. นำกล้วยที่ปอกเปลือกให้หมดทั้งหวี ล้าง และแช่ไว้ในน้ำสะอาดที่ผสมเกลือเล็กน้อย (เพื่อไม่ให้กล้วยมีสีดำ) ตั้งพักไว้

          3. ฝานกล้วยดิบเป็นแผ่นบาง ๆ ตาม ความยาวของผล ด้วยมีดคู่ แล้วนำกล้วยที่ฝานแล้วตากแดดเพื่อให้สามารถหยิบกล้วยได้ง่าย กล้วยจะไม่ติดกัน

          4. ตั้งกระทะให้ร้อนเติมน้ำมันพืชลงในกระทะ เมื่อน้ำมันร้อนพอดี มีควันลอยบ้างบางๆ ใส่กล้วยตามข้อ 3 ลงทอดในน้ำมันทันที เมื่อกล้วยลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำมัน ให้หมั่นคนและ พลิกชิ้นกล้วยกลับให้ถูกน้ำมัน เพื่อความร้อนสม่ำเสมอทั่วกันทุกชิ้น จนเหลืองดีแล้ว (อย่าเหลืองมาก เพราะกว่าจะเย็นคลายตัว กล้วยจะไหม้ มีสีดำ และมีรสขม) ตักขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำมัน ทำจนกระทั่งเสร็จ

          5. แบ่งกล้วยที่ทอดแล้ว 3 ส่วน เพื่อทำกล้วยฉาบรสหวาน รสเค็ม รสเนย

วิธีการทำกล้วยฉาบรสหวาน (ส่วนผสม)
            1.นำกล้วยที่ฉาบแล้วมา 1 ส่วน
            2.น้ำมันพืชสำหรับทอด 4 ถ้วยตวง
            3.น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง
            4.น้ำ 4 ถ้วยตวง

            5. ใช้กระทะที่สะอาด ตั้งไฟเบาๆ ใส่น้ำตาล น้ำ ลงในกระทะนั้น ต้มจนน้ำตาลละลาย และเคี่ยวต่ออีกครู่ จนน้ำตาลเหนียวเป็นเส้น เมื่อใช้ช้อนจุ่มลงในน้ำเชื่อม แล้วยกช้อนขึ้น น้ำเชื่อมจะยืดตามมีดเป็นเส้น
           6. ใส่กล้วยที่ทอดไว้ ลงในกระทะน้ำเชื่อมทันทีที่ยกลงจากเตา เคล้าเบา ๆ ให้น้ำเชื่อมจับชิ้นกล้วยให้ทั่วถึง
           7. พักไว้จนเย็นสนิทและน้ำเชื่อมแห้งสนิทด้วย จึงเก็บใส่ขวดโหล หรือภาชนะฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันลมเข้ารับประทานกันในครอบครัว หรือจะทำเพื่อเป็นอาชีพเสริม ก็จะแพ็คใส่ถุง

วิธีการทำกล้วยฉาบรสเค็ม (ส่วนผสม)

           1. กล้วยที่ฉาบแล้ว 1 ส่วน

            2. น้ำเกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอน/วิธีทำ

            1. นำกระทะตั้งไฟร้อนกลาง ๆ ใส่น้ำ และเกลือ ลงในกระทะนั้น ต้มจนเกลือละลาย และเคี่ยวต่ออีกครู่

            2. นำกล้วยฉาบที่ฉาบแล้วใส่ลงไปในกระทะแล้วยกกระทะลงจากเตาคลุกเคล้าให้เข้ากัน

            3. นำมาพักไว้ในภาชนะจนเย็นสนิท  จึงเก็บใส่ขวดโหล หรือภาชนะฝาปิดสนิท เพื่อป้องกันลมเข้ารับประทานกันในครอบครัว หรือจะทำเพื่อเป็นอาชีพเสริม ก็จะแพ็คใส่ถุง

1. ใช้กล้วยน้ำว้าดิบ 10 หวีๆละ 10 บาท  เป็นเงิน   100  บาท
2. ส่วนผสม/เครื่องปรุงรส ในการทำกล้วยน้ำว้า 1 รอบ เป็นเงิน  170 บาท
3. บรรจุถุงจำหน่าย ถุงละ 10 บาท ได้ทั้งหมด 50 ถุง เป็นเงิน 500 บาท
4. รวมต้นทุนการผลิต (270 บาท ต่อ 1 รอบ ขายได้ 500 บาท)

-          กล้วยน้ำว้า                                                          100  บาท

-          น้ำมันพืช                                                            120 บาท

-          เครื่องปรุงรส                                                         50 บาท

-          ผลผลิตที่ได้ จำนวน 50 ถุงๆละ 10 บาท                     500 บาท     

ได้กำไร                                                                 230 บาท

คุณประโยชน์ของกล้วย

กล้วยน้ำว้า สรรพคุณ ประโยชน์ บำรุงร่างกายและดูแลสุขภาพ กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ไทยๆ ที่มีมาแต่โบราณเป็นภูมิปัญญาไทยมีแค่ประเทศไทยประเทศเดียว คนไทยทุกคนเกิดมาก็ต้องรู้จักกล้วยน้ำว้าเป็นอย่างดีกล้วยน้ำว้า ถึงจะเป็นผลไม้ ที่ไม่น่าจะให้พลังงานได้เยอะ แต่เชื่อหรือไม่ว่า กล้วยเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี ในกล้วย 1 ผล สามารถให้พลังงานได้ร่วม 100 แคลอรี่ มีน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด ทั้ง ซูโครส ฟรุคโทส และกลูโครส รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร และอุดมด้วย วิตามินบี 6 ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน แถมแร่ธาตุอย่างแมกนีเซียมและโพแทสเซียม ที่ช่วยป้องกันโรคความดันอีก

ในบรรดากล้วยทั้งหมด กล้วยน้ำว้าให้แคลเวียมสูงสุด นอกจากนั้นก็ยังมีวิตามินบี 1 บี 2 ซี และไนอะซิน (บี 6) ในปริมาณที่เท่า ๆ กัน แต่ที่ทำให้กล้วยน้ำว้า มีคุณค่าสารอาหารที่พิเศษกว่ากล้วยชนิดอื่น นั่นก็คือ โปรตีนที่อยู่ในกล้วยน้ำว้า มีกรดอะมิโน อาร์จินิน และฮีสติดิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก ถึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมตอนเด็ก ๆ ผู้ใหญ่ถึงให้เรากินกล้วยบด เพราะอุดมด้วยสารอาหาร และวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายเรานั่นเอง

สรรพคุณของกล้วยน้ำว้าช่วยป้องกันโรค

         1. กล้วยน้ำว้า ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ รับประทานวันละ 5 - 6 ผล จะช่วยให้อาการคะคายเคืองลดน้อยลง

         2. กล้วยน้ำว้า ยังช่วยระงับกลิ่นปากได้ วิธีการก็คือ รับประทานกล้วยน้ำว้าหลังตื่นนอนทันที แล้วค่อยแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากได้มาก

         3. กล้วยน้ำว้ายังสามารถรักษาโรคกระเพาะ เพราะในกล้วยน้ำว้ามีสารแทนนินอยู่มาก จึงสามารถช่วยรักษาอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงได้

         4. กล้วยน้ำว้า แก้ท้องผูก ก็สามารถแก้ท้องเดินหรือท้องเสียได้